“สิ่ว” คือ เครื่องมือช่างพื้นฐานอีกชนิด ที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง รวมถึงเครื่องมือทางการเกษตร สิ่วถูกนำมาใช้อย่างยาวนาน ตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นเครื่องมือช่างอีกชนิด ที่คนส่วนมาก อาจยังไม่ทราบถึงการใช้งาน และประโยชน์ของสิ่ว หากซื้อไว้ติดบ้าน รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบงาน D.I.Y อย่างไรก็ดี สิ่วมีหลายประเภท และรูปทรง จึงควรทำความรู้จักสิ่วให้มากขึ้น
เฮียบฮกออนไลน์ จะพาไปทำความรู้จัก “สิ่ว” เครื่องมือช่างอีกชนิดที่มีประโยชน์มากมาย สามารถหาซื้อติดบ้านไว้ใช้กับงานในครัวเรือนได้ ดังนั้น ควรมีความรู้เบื้องต้น ก่อนเลือกซื้อสิ่วให้ตรงกับความต้องการ และการใช้งาน
สิ่ว คือ อะไร มีกี่ประเภท และใช้ทำงานอะไรได้บ้าง
											หลายคน อาจไม่เชื่อว่า เบื้องหลังความสวยงามตระการตา และประณีตของประติมากรรมหินอ่อน อนุสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์ หรือแม้แต่ตึกสูงเสียดฟ้า และงานแกะสลัก ต่างใช้ “สิ่ว” เป็นเครื่องมือสำคัญในการรังสรรค์ความงดงามเหล่านั้น
สิ่ว คือ อะไร
											“สิ่ว” (Chisels) คือ เครื่องมือช่างที่ใช้แกะสลักวัสดุ ด้วยการใช้ค้อน (Hammer) ทุบ หรือตอกลงไปที่หัวสิ่ว หรืออาจใช้เครื่องมือ สำหรับตอกสิ่วโดยเฉพาะ (Mallet) และยังสามารถนำไปใช้ตัด (Cutting) ใช้ถาก (Chipping) หรือขึ้นรูป (Shaping) วัสดุไม้ หิน และโลหะชนิดต่างๆ ทั้งนี้ สิ่วยังสามารถเจาะวัสดุงานได้เช่นกัน
สิ่ว จะประกอบด้วยใบมีดที่แหลมคม และยังมีที่จับที่ทำจากโลหะ ไม้ หรือพลาสติก นิยมใช้สิ่วในงานแกะสลัก (Sculpture) งานศิลปะ (Art) งานอิฐ (Mansory) รวมไปถึงงานก่อสร้าง (Construction)
แม้ว่าสิ่วที่ขายตามท้องตลาดทั่วไป จะมีหลายประเภท และหลายหน้าตา แต่โดยทั่วไปสิ่วมีโครงสร้าง 4 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนหัว (Head) ด้ามจับ (Handle) ลำตัว (Body) และส่วนคมมีด (Cutting Edge)
ประเภทของสิ่ว
											เนื่องจากสิ่วมีหลายรูปทรง และขนาด จึงมีให้เลือกใช้งานมากมาย ทั้งนี้การเลือกใช้สิ่ว จะขึ้นอยู่กับวัสดุที่จะนำไปใช้งาน ด้วยเหตุนี้ จึงนิยมแบ่งประเภทของสิ่วตามลักษณะงาน หรือวัสดุชิ้นงาน โดยทั่วไปสามารถแบ่งสิ่วออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ สิ่วใช้งานกับไม้ สิ่วใช้งานกับโลหะ และสิ่วใช้งานกับหิน หรือจะแบ่งตามประเภทของสิ่วที่ใช้ค้อน และสิ่วที่ไม่ใช้ค้อนในการทำงาน ดังนี้
สิ่วที่ต้องกับใช้ค้อน
											คือ สิ่วที่มีใบมีดหนาทนทาน สามารถรองรับแรงกระแทกจากการตอก หรือทุบที่หัวสิ่ว ด้วยค้อน (Hammer) หรือเครื่องมือ สำหรับตอกสิ่วโดยเฉพาะ (Mallet) ที่หัวตรงด้ามจับของสิ่วประเภทนี้ จะมีลักษณะแบน ออกแบบมา เพื่อให้สามารถใช้งานกับค้อนได้ สิ่วที่ต้องใช้กับค้อน และนิยมใช้กันมาก ได้แก่
- สิ่วลบเหลี่ยม (Bevel-Edged Chisel) คือ สิ่วที่มีความแข็งแรง มีลักษณะไม่สั้น หรือไม่ยาว ด้านข้างของใบมีดมีความลาดเอียง (Beveled) และปลายใบมีดตรง (Straight Edge) ซึ่งลักษณะดังกล่าวส่งผลให้สิ่วประเภทนี้ สามารถเข้าถึงบริเวณที่เป็นรอยต่อ หรือเชื่อมชิ้นงาน รวมถึงบริเวณมุมต่างๆ ของชิ้นงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 - สิ่วงานไม้ (Bench Chisel) เป็นสิ่วที่มีขนาดสั้นกว่าสิ่วลบเหลี่ยม และมีความแข็งแรง เหมาะกับงานถาง งานตัดแต่ง และงานเข้าไม้เฟอร์นิเจอร์ สิ่ว
 - สิ่วใบหนา (Firmer Chisel) ทำจากวัสดุแข็ง เช่น เหล็กกล้า (Steel) สำหรับใช้ในงานหนัก (Heavy-Duty Work) สิ่วใบหนาเป็นหนึ่งในสิ่วที่มีความเก่าแก่มากที่สุด มีใบมีดสี่เหลี่ยมแบบตัดขวาง และลาดเอียง 20 องศา เหมาะกับชิ้นงานที่เป็นมุมแหลมคม 90 องศา ด้ามจับของสิ่วใบหนา อาจทำจากไม้เนื้อแข็ง หรือพลาสติกแข็งที่ทนต่อค้อน หรือเครื่องมือ สำหรับตอกสิ่วโดยเฉพาะ
 - สิ่วเจาะ (Mortise Chisel) เป็นสิ่วที่ทำหน้าที่เจาะรูข้อต่อชนิดสวมเดือย (Mortise Joints) ใบมีดหนากว่าความกว้างของตัวใบมีด และขนาดของใบมีดส่วนใกล้ด้ามจับค่อนข้างใหญ่ เพื่อป้องกันไม่ให้ใบมีดบิดงอ เมื่อสิ่วถูกตอก หรือทุบด้วยค้อน ที่จับของสิ่วเจาะมีลักษณะเป็นห่วง (Hoops) ที่ทำจากไม้เนื้อแข็ง มีห่วงครอบ หรือห่วงเหล็กกล้าที่ทนต่อแรงทุบ หรือตอกด้วยค้อน หัวของสิ่วประเภทนี้ จะตัดที่มุมระหว่าง 30 ถึง 40 องศา มีอายุการใช้งานยาวนาน และทนต่อแรงทุบ หรือตอกด้วยค้อน เหมาะกับงานตัดข้อต่อส่วนเกิน หรือไสเศษไม้ทิ้ง
 - สิ่วเหล็กสกัด (Bolster Chisel) คือ สิ่วตัดอิฐ โลหะ หรือหินเป็นแนวตรง ด้ามจับแบน ปลายใบมีดลาดเอียง และแข็งแรง ซึ่งสามารถเจาะทะลุวัสดุแข็ง ด้วยค้อน หรือเครื่องมือ สำหรับตอกสิ่วโดยเฉพาะ (Mallet)
 - สิ่วด้ามสั้น (Butt Chisel) เป็นสิ่วที่มีใบมีดสั้นเป็นเอกลักษณ์ เหมาะกับงานติดตั้งบานพับของวัสดุงานไม้ และยังเหมาะกับบริเวณที่เข้าถึงยากลำบาก หรือชิ้นงานที่มีพื้นที่แคบ
 - สิ่วสกัดคอนกรีต (Concrete Chisel) คือ สิ่วที่สกัดพื้นคอนกรีต (Concrete Floor) ทางเท้า (Sidewalk) และแผ่นปูทางเท้า (Paving Slab)สิ่วสกัด
 - สิ่วเย็น (Cold Chisel) ทำหน้าที่เจาะ และขึ้นรูปวัสดุแข็ง เช่น โลหะ (Cold Metal) หรือวัสดุที่มีความหนาเป็นพิเศษ และเครื่องมือช่างอื่นๆ เช่น เลื่อยตัดโลหะ (Hacksaw) กรรไกร (Shears) และกรรไกรตัดโลหะ (Tin Snips) ไม่สามารถทำงานได้ คำว่า “เย็น” หรือ “Cold” หมายถึง โลหะที่ไม่ผ่านความร้อนก่อนการใช้งาน โดยทั่วไป สิ่วเย็นจะผลิตจากเหล็กกล้าคาร์บอนเครื่องมือ (Carbon Tool Steels) ทำให้สามารถเจาะทะลุผ่านโลหะ และอิฐ สิ่วเย็นยังมีอีหลายชนิด เช่น สิ่วเย็นแบน (Flat Cold Chisel) เหล็กสกัดปากจิ้งจก (Cape-Cold Chisel) สิ่วปากเหลี่ยมรูปเพชร (Diamond-Pointed Chisel) และเหล็กสกัดปากมน (Roun-Nose Chisel)
 
สิ่วที่ไม่ใช้ค้อนทำงาน ที่ใช้กันมากที่สุด มีดังนี้
											- สิ่วปากบาง (Paring Chisel) ใบมีดของสิ่วประเภทนี้ จะมีความบาง และเบา และคมมีดที่พื้นเอียงทำมุม 15 องศา ใบมีดของสิ่วปากบางจะยาวกว่าใบมีดของสิ่วใบหนา และที่จับแตกต่างกัน เหมาะสำหรับงานเบา หรือไม่หนัก (Light Work) จึงไม่เหมาะ หากจะนำค้อนมาใช้กับสิ่วประเภทนี้
 - สิ่วประกบ (Dovetail Chisel) คือ สิ่วที่สามารถเจาะเดือย และประสานข้อต่อเข้าด้วยกัน มีใบมีดยาว ส่วนปลายของคมมีดลาดเอียง 20 – 30 องศา เนื่องจากเป็นสิ่วที่มีความยาวเป็นพิเศษ จึงเหมาะกับการทำความสะอาด และลับคมข้อต่อ
 - สิ่วด้ามเบสบอส (Slick Chisel) สิ่วประเภทนี้ ทำงานเหมือนกับสิ่วปากบาง แต่จะแตกต่างจากสิ่วปากบางตรงที่มีใบมีดที่กว้าง และตรงกว่า ด้ามจับมีรูปทรงเป็นเอกลักษณ์คล้ายกับไม้เบสบอล ทำให้จับสบายมือ เมื่อเฉือนชิ้นส่วนของไม้ออกจากชิ้นงาน
 - สิ่วไฟฟ้า (Power Chisel) เป็นสิ่วที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการทำงาน และทำหน้าที่แทนค้อน ส่งผลให้ชิ้นงานเสร็จเร็วขึ้น และมีประสิทธิภาพมากกว่าสิ่วที่ใช้มือทั่วไป
 - สิ่วร้อน (Hot Chisel) คือ สิ่วอีกชนิดที่ไม่ใช้ค้อนในการทำงาน จะใช้สิ่วร้อนกับโลหะอ่อนตัวด้วยความร้อนจากเตาหลอม หรือหัวเชื่อมแก๊ส (Softened by heat from a forge or torch) สิ่วร้อนนิยมใช้กับงานของช่างตีเหล็ก
 
ความเป็นมา และวิวัฒนาการของสิ่วจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
											เชื่อกันว่า “Chisel” หรือ “สิ่ว” วิวัฒนาการมาจากภาษาละติน “seco” ที่แปลว่า “I cut” หรือ ฉันเป็นคนตัด นอกจากนี้ บางคนยังเชื่อว่า Chisel มาจากภาษาฝรั่งเศส “Ciseau” สิ่วมีมาตั้งแต่ยุคสมัยโบราณ หรือยุคหิน (Stone Age) ซึ่งในยุคดังกล่าว ยังคงเป็นเครื่องมือที่มีลักษณะคล้ายสิ่วเท่านั้น (Chisel-Like Tools) สิ่วถูกคิดค้น และสร้างขึ้นในยุคสัมฤทธิ์ (Bronze Age) และช่วงแรกของยุคเหล็ก (Iron Age) และในช่วงยุคกลาง (Medieval Times) ช่างไม้จะใช้สิ่วที่มีลักษณะบานออกข้าง และกว้าง หรือที่เรียกว่า “Former Chisel” ถูกนำมาใช้แกะสลักท่อนไม้แบบหยาบ ให้เป็นรูปทรงที่ต้องการ
พอถึงศตวรรษที่ 16 หน้าตาของสิ่วเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม สิ่วในช่วงนี้ จะมีรูปทรงที่หนา และสั้นขึ้น ซึ่งมีชื่อว่า “Firmer Chisel” สามารถใช้ได้กับมือ หรือทุบ/ตอกลงไปที่ด้ามจับ ด้วยเครื่องมือ สำหรับตอกสิ่วโดยเฉพาะ (Mallet) และยังมีสิ่วชนิด “Lock-Mortise” และ “Bolting Iron” ที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อใช้กับงานเฉพาะ (Specialty Work)
รูปร่าง และหน้าตาของสิ่วในยุคสมัยใหม่ หรือปัจจุบันเปลี่ยนไปจากยุคกลางเพียงเล็กน้อย ความแตกต่างจะอยู่ที่สิ่วที่ใช้กับงานไม้ จะมีที่จับที่ทำจากไม้ หรือพลาสติกทนแรงกระแทก (Impact-Resistant Plastic)
การใช้งานสิ่ว
											การใช้งานสิ่วให้เกิดประสิทธิภาพต่อตัวชิ้นงาน สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ การกำหนดจุดใช้งานสิ่วบนวัสดุ ด้วยปากกาสี ให้ใช้มือซ้ายจับตัวสิ่ว และใช้มือขวาจับค้อน หรือเครื่องมือ สำหรับตอกสิ่วโดยเฉพาะ (Mallet) ตอก หรือเคาะลงบนหัวสิ่ว
หากต้องการตัดวัสดุแบบเฉียบคม (Clean Cut) ให้วางสิ่วที่มุม 90 องศา หรือให้สิ่วตั้งฉากกับผิวหน้าของชิ้นงาน หากต้องการทำร่องบนกำแพงอิฐ ให้วางสิ่วที่มุม 65 องศา หรือหากต้องการดึงหมุดออกจากหิน ให้ถือสิ่วที่มุมต่ำกว่า 45 องศา
สิ่วสามารถใช้งานกับวัสดุใดได้บ้าง
											คำตอบ คือ ไม่ว่าจะเป็นสิ่วที่ใช้ หรือไม่ใช้ค้อนในการทำงานก็ตาม (Hammering or Not) สิ่วสามารถใช้งานได้กับวัสดุ 3 ชนิด ประกอบด้วย ไม้ โลหะ และหิน
- วัสดุไม้ (Wood) : หรืองานที่เกี่ยวข้องกับเฟอร์นิเจอร์ หรือช่างไม้ สิ่วที่เหมาะกับการใช้งาน ได้แก่ สิ่วลบเหลี่ยม (bevel-edged chisel) สิ่วด้ามสั้น (butt chisel) สิ่วเข้าโครง (framing chisel) สิ่วเจาะ (mortise chisel) สิ่วเจาะเดือยหางเหยี่ยว (dovetail chisel) สิ่วเก็บมุม (corner chisel) สิ่วหน้าเอียง (skew chisel) สิ่วปากบาง (paring chisel) สิ่วญี่ปุ่น (Japanese chisel) และสิ่วแกะสลัก (carving chisel)
 - วัสดุโลหะ (Metal) : สิ่วที่สามารถใช้งานกับโลหะ คือ สิ่วเย็น (Cold Chisel) และสิ่วร้อน (Hot Chisel) จะเป็นสิ่ว 2 ประเภทหลักที่สามารถเจาะ และขึ้นรูปชิ้นงานโลหะได้
 - วัสดุหิน (Stone) : สิ่วที่เหมาะสำหรับงานหิน ประกอบด้วย Standard and Toothed Stone Chisels สิ่วก่ออิฐ (Mansory Chisel) Spoon chisel และสิ่วเหล็กสกัดอิฐ (Brick Bolster) ซึ่งสิ่วเหล่านี้ คือ สิ่วที่สามารถตัด ขึ้นรูป และถูวัสดุหิน (Stones) และอิฐ (Bricks)
 
การใช้งานสิ่วให้ปลอดภัย
											สาเหตุหลักของอุบัติเหตุ ที่เกิดขึ้นจากสิ่ว มาจากการใช้งานสิ่วที่ไม่เหมาะกับงาน และสิ่วสภาพไม่สมบูรณ์ การใช้งานสิ่วให้ปลอดภัย มีดังนี้
- สิ่วต้องผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพ และอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
 - ต้องใช้สิ่วให้ตรงกับวัตถุประสงค์เฉพาะของงาน
 - ให้ตรวจสิ่วก่อนการใช้งานทุกครั้ง
 - หัวสิ่วต้องไม่ลื่น
 - คมมีดของสิ่วต้องคม
 - ขนาดของสิ่วต้องเหมาะกับตัวงาน
 - หากสิ่วเย็นงอ หรือกระเด็นขณะใช้งานกับวัสดุโลหะ หมายความว่า สิ่วมีขนาดไม่ใหญ่ หรือไม่แข็งแรงพอ
 - สวมแว่นตาใส และถุงมือ ขณะใช้งานสิ่ว เพื่อความปลอดภัย
 - เปลี่ยนสิ่วใหม่ หรือซ่อมสิ่ว เมื่อตรวจพบความเสียหาย หากฝืนใช้งานสิ่ว ที่ไม่พร้อมใช้งาน อาจทำให้เกิดความเสียหายได้ ทั้งแก่ตัวงาน และผู้ใช้งาน
 - หากที่จับของสิ่วหัก หรือร้าว ให้เปลี่ยนสิ่วอันใหม่
 
สรุป
การเลือกซื้อ และใช้งานสิ่วให้ตรงกับชิ้นงาน มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากประเภทของสิ่ว ส่งผลต่อความสมบูรณ์แบบของตัวชิ้นงาน หากไม่แน่ใจว่า ควรใช้สิ่วประเภทไหน ให้สอบถามผู้ขายเกี่ยวกับ “สิ่ว”
หากไม่แน่ใจ จะเลือกใช้บันไดช่างประเภทใด ที่เหมาะกับการใช้งาน สามารถติดต่อ หรือส่งข้อความหาเฮียบฮกออนไลน์ได้เลยทันที เฮียบฮกออนไลน์ยินดีตอบคำถาม และให้คำปรึกษาเรื่องเครื่องมือช่าง ที่ควรมีไว้ติดบ้าน
- โทรศัพท์ : 0956549462 และ 0626463545
 - Facebook : Heabhok
 - Line : @heabhok (พิมพ์@ด้วยน้า)
 



									
									
									